CAP คืออะไร ใบรับรองยอดฮิตจาก ISC2 ที่สายไอทีควรรู้จัก!
ปัจจุบันข้อมูลกลายเป็นสิ่งสำคัญในการดำเนินธุรกิจ หลายองค์กรนำการวิเคราะห์ข้อมูลมาช่วยในการทำธุรกิจมากขึ้น เพราะไม่เพียงแค่ช่วยให้เข้าพฤติกรรมของลูกค้าเท่านั้น แต่ยังช่วยคาดการณ์แนวโน้มของตลาดและปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานได้ด้วย อย่างไรก็ตาม การวิเคราะห์ข้อมูลที่มีประสิทธิภาพต้องอาศัยความเข้าใจเชิงลึกและทักษะความสามารถในการวิเคราะห์ บริษัทต่าง ๆ จึงต้องการพนักงานที่มีใบรับรองเพื่อแสดงความเชี่ยวชาญในการจัดการความเสี่ยง
Certified Authorization Professional (CAP) เป็นใบรับรองที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล ถูกออกแบบมาเพื่อวัดทักษะและความรู้ด้านเทคนิคขั้นสูงในการสนับสนุนโซลูชันการจัดการความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับผู้ที่ปฏิบัติงานในด้าน IT การรักษาความมั่นคงปลอดภัยและการรับรองสารสนเทศ เพื่อนำไปใช้จัดการความเสี่ยงในระบบ IT ภายในองค์กร บทความนี้ทาง ERT จะพาไปทำความรู้จักกับใบรับรอง Certified Authorization Professional (CAP) เพื่อให้เข้าใจกันมากยิ่งขึ้น
Contents
Certified Authorization Professional (CAP) คืออะไร?
Certified Authorization Professional หรือ CAP คือ ใบรับรองความเชี่ยวชาญด้านการวิเคราะห์ข้อมูลที่เป็นการตรวจสอบความสามารถของบุคคล เพื่อยืนยันความเชี่ยวชาญทางเทคนิคและทักษะอื่น ๆ ที่จำเป็นสำหรับการวิเคราะห์ข้อมูล ออกโดย INFORMS (Institute for Operations Research and the Management Sciences) ซึ่งเป็นองค์กรระดับสากลที่มีชื่อเสียง ทำให้ใบรับรอง CAP ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือแก่โปรไฟล์และสร้างความก้าวหน้าทางอาชีพ
ความสำคัญของ Certified Authorization Professional (CAP)
ใบรับรอง CAP มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ทำงานในด้าน IT การรักษาความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศ และการรับรองสารสนเทศ เพราะเป็นเครื่องหมายรับรองมาตรฐานวิชาชีพที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล ช่วยรับรองความสามารถด้านการวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูงและจัดการความเสี่ยงระบบ IT รวมถึงยังแสดงให้เห็นว่าคุณมีความรู้และความสามารถทางเทคนิคในการกำหนดกระบวนการประเมินความเสี่ยงและสร้างเอกสารด้านความมั่นคงปลอดภัยได้
นอกจากนี้ CAP ยังช่วยยกระดับความน่าเชื่อถือและความก้าวหน้าทางอาชีพของผู้เชี่ยวชาญ องค์กรสามารถพิสูจน์ว่าคุณมีทักษะความรู้ในการทำความเข้าใจ GRC สามารถให้สิทธิ์และบำรุงรักษาระบบ IT โดยใช้กรอบจัดการความเสี่ยงต่าง ๆ ได้
ข้อดีของการมีใบรับรอง CAP
1. เพิ่มความเชี่ยวชาญและน่าเชื่อถือ
CAP เป็นใบรับรองยืนยันความเชี่ยวชาญในการวิเคราะห์ข้อมูลที่ออกโดย INFORMS ซึ่งเป็นองค์กรที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล แสดงถึงการผ่านการทดสอบที่เข้มงวดและมีมาตรฐานสูง จึงช่วยสร้างความน่าเชื่อถือและความเชี่ยวชาญในทักษะของคุณ
2. เพิ่มความก้าวหน้าทางอาชีพ
องค์กรส่วนใหญ่มักพิจารณาผู้ถือใบรับรอง C AP ในตำแหน่งระดับสูงหรือตำแหน่งผู้นำด้านการวิเคราะห์ข้อมูล ซึ่งหมายถึงการเพิ่มโอกาสในการได้รับมอบหมายโครงการสำคัญที่ต้องใช้ทักษะการวิเคราะห์ขั้นสูง และเพิ่มความก้าวหน้าทางอาชีพ อีกทั้งยังสามารถเปลี่ยนสายงานไปสู่ตำแหน่งอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการวิเคราะห์ข้อมูลได้ง่ายขึ้น
3. โอกาสเลื่อนตำแหน่งและเพิ่มรายได้
จากการสำรวจพบว่าผู้ที่มีใบรับรอง CAP มักได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษในการเลื่อนตำแหน่งและได้รับค่าตอบแทนที่สูงขึ้น เพราะแสดงให้เห็นถึงความสามารถขั้นสูงในด้านการวิเคราะห์ นอกจากนี้ บางองค์กรยังมีนโยบายให้โบนัสพิเศษแก่พนักงานที่มีใบรับรองวิชาชีพอีกด้วย
4. พัฒนาทักษะและความรู้ในเชิงลึก
การเตรียมตัวสอบ CAP ช่วยให้ได้ทบทวนความรู้ในด้านการวิเคราะห์ข้อมูลอย่างครอบคลุม ช่วยให้เห็นจุดแข็งจุดอ่อนของตนเองเพื่อนำไปพัฒนาทักษะเฉพาะด้าน และยังช่วยให้เข้าใจแนวโน้มและเทคโนโลยีล่าสุดในวงการวิเคราะห์ข้อมูล
5. สร้างความได้เปรียบในตลาดงาน
CAP เป็นใบรับรองความสามารถอันเป็นที่ยอมรับ ช่วยสร้างความโดดเด่นในกลุ่มผู้สมัครงาน เนื่องจากนายจ้างมักให้ความสำคัญกับผู้สมัครที่มีใบรับรองวิชาชีพ เพราะแสดงถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาตนเอง ยิ่งในกรณีที่ตำแหน่งงานต้องการผู้มีใบรับรอง CAP ก็จะมีความได้เปรียบอย่างมาก
เนื้อหาและรูปแบบการสอบ CAP
ใบรับรอง Certified Authorization Professional (CAP) เป็นใบรับรองระดับสูงที่ออกแบบมาเพื่อรับรองทักษะและความรู้ที่จำเป็นสำหรับผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัย IT ในการอนุมัติและดูแลรักษาระบบสารสนเทศภายใต้กรอบการบริหารความเสี่ยง (RMF) โดยใช้แนวปฏิบัติที่ดีที่สุด นโยบาย และขั้นตอนที่กำหนดโดยผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ของ ISC2
เนื้อหาการสอบ
- Continuous Monitoring (16%)
- Scope of the Information System (11%)
- Authorization / Approval of Information System (10%)
- Information Security Risk Management Program (16%)
- Implementation of Security and Privacy Controls (16%)
- Assessment / Audit of Security and Privacy Controls (16%)
- Selection and Approval of Security and Privacy Controls (15%)
รูปแบบการสอบ
- จำนวนคำถาม : 125 คำถาม
- เวลา : 3 ชั่วโมง
- รูปแบบข้อสอบ : ข้อสอบแบบปรนัย มีตัวเลือก 4 ข้อ เลือกข้อที่ถูกต้องที่สุด
- คะแนนผ่าน : 700 คะแนนขึ้นไป (เต็ม 1000 คะแนน)
บทความที่เกี่ยวข้อง : ศูนย์สอบ Pearson VUE คืออะไร เปิดสอบผลิตภัณฑ์อะไรบ้าง?
หลักสูตรนี้เหมาะสำหรับใคร?
ผู้ที่อยู่ในสายงาน Information Systems Analyst, Cybersecurity Analyst, Cybersecurity Engineer, Senior Project Manager IT, Information Security Manager, Information Technology Auditor, Information Security Specialist รวมถึงผู้ที่สนใจด้านการดูแลและการจัดการความเสี่ยงในระบบสารสนเทศ
ทักษะและความรู้ที่จำเป็นสำหรับใบรับรองนี้
- มีประสบการณ์ทำงานด้านการวิเคราะห์ข้อมูล 2 ปี พร้อมวุฒิการศึกษาระดับปริญญาโท (MA/MS) หรือสูงกว่า
- มีประสบการณ์ทำงานด้านการวิเคราะห์ข้อมูล 4 ปี พร้อมวุฒิการศึกษาระดับปริญญาตรี (BA/BS)
- มีประสบการณ์ทำงานด้านการวิเคราะห์ข้อมูล 8 ปี โดยไม่จำกัดระดับการศึกษา
ทั้งนี้ ผู้สอบควรมีความรู้ด้านการจัดการความเสี่ยงด้านความปลอดภัย การประยุกต์ใช้ความรู้ในทางปฏิบัติ หรือประสบการณ์ในด้านการจัดการและอนุญาตระบบสารสนเทศภายในกรอบการจัดการความเสี่ยง (Risk Management Framework – RMF) มาก่อน
สรุป
หากคุณกำลังมองหาความก้าวหน้าในสายงาน Cybersecurity ใบรับรอง Certified Authorization Professional (CAP) จะช่วยเพิ่มความโดดเด่นให้แก่โปรไฟล์ของคุณได้เป็นอย่างดี เพราะเป็นใบรับรองที่ได้รับความนิยมในระดับสากลและเป็นใบรับรองเดียวของ ISC2 ที่ใช้ทดสอบผู้เชี่ยวชาญด้าน IT ที่มีหน้าที่ในการจัดการและอนุญาตระบบสารสนเทศภายในกรอบการจัดการความเสี่ยง (RMF)
สำหรับใครที่สนใจสอบใบรับรอง CAP และผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ทาง ERT เราเป็นศูนย์สอบอย่างเป็นทางการของ Pearson VUE ให้บริการสอบวัดระดับทักษะต่าง ๆ จากผลิตภัณฑ์ชั้นนำทั่วโลก สนใจสามารถคลิกลิงก์ด้านล่างเพื่อสอบถามรายละเอียดข้อมูลเกี่ยวกับการสอบได้เลย! 👇👇
https://www.ert.co.th/register-testing-and-certification/
Ref: globalknowledge, isc2, infosecinstitute
💬🙋♂️ สอบถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อมาได้ที่
☎ Tel: 02-718-1599
✉ Email: info@ert.co.th
📱 Line: https://lin.ee/wtyQVtl