10 เครื่องมือ AI ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ประจำปี 2024
ปัจจุบันเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามามีบทบาทในการทำงานเป็นอย่างมาก หลายองค์กรจึงหันมาใช้ AI ในการทำงานเพิ่มมากขึ้น เพราะความสะดวก รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ งานวิจัยหลายแห่งพบว่า AI ช่วยลดเวลาในการทำงานและเสริมสร้างผลิตภาพให้แก่องค์กรได้เป็นอย่างดี โดย AI ในที่นี้คือการใช้เครื่องมืออย่าง Generative AI ซึ่งเป็น AI ประเภทหนึ่งที่สามารถสร้างสรรค์เนื้อหาใหม่ได้ ทั้งในรูปแบบของรูปภาพ ข้อความ เสียง วิดีโอ และอื่น ๆ อีกมากมาย จากการเรียนรู้จากแบบจำลองของข้อมูลต่าง ๆ ที่มีอยู่จริง อย่างไรก็ตาม การนำเครื่องมือ AI มาใช้ในการทำงานควรเลือกเครื่องมือที่ตรงกับความต้องการและเหมาะสมกับงานที่ทำ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
วันนี้ทาง ERT จะพามาดู 10 เครื่องมือ AI ที่จะช่วยให้การทำงานของคุณสะดวกมากยิ่งขึ้น ไปดูกันเลยว่าจะมีเครื่องมือไหนบ้างที่เหมาะกับการทำงานในยุคนี้!
Contents
10 เครื่องมือ AI ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ประจำปี 2024
1. Midjourney
AI สายภาพประกอบที่ช่วยเปลี่ยนข้อความให้เป็นรูปภาพ ใช้งานผ่าน Discord ซึ่งถือว่าสะดวกสำหรับสายครีเอเตอร์และนักออกแบบ จุดเด่นของ Midjourney คือจะ Generate รูปภาพออกมาให้มีการลงสีหนักเบา ดูเป็นธรรมชาติจากฝีมือมนุษย์ โดยใช้เวลาเพียงแค่ 1 นาที และสามารถปรับแต่งรูปภาพได้ตามใจชอบ แตกต่างจากเครื่องมือตัวอื่น ๆ อย่างชัดเจน
เว็บไซต์ : https://www.midjourney.com/home
2. Copy.ai
เครื่องมือที่ช่วยเขียนข้อความต่าง ๆ ได้หลากหลายรูปแบบ เป็นทางเลือกสำหรับผู้ใช้งาน ChatGPT ให้ช่วยสร้างสรรค์งานเขียน จุดเด่นของเครื่องมือดังกล่าวสามารถรองรับได้มากกว่า 25 ภาษา สรุปหน้าเว็บไซต์ได้อย่างเรียลไทม์ และสามารถเขียนบทความได้จากคีย์เวิร์ดเพียงหนึ่งคำได้ นอกจากนี้ ยังมีอินเทอร์เฟซและตัวปรับแต่งที่ใช้งานง่าย และยังใช้งานร่วมกับเครื่องมืออื่น ๆ จึงช่วยประหยัดเวลาและเพิ่มประสิทธิภาพในงานเขียน
เว็บไซต์ : https://www.copy.ai/
3. Bing Image Creator
เครื่องมือ AI ที่ใช้สร้างรูปภาพ ด้วย DALL-E ของ Microsoft ผู้ใช้สามารถป้อนข้อความเพื่อสร้างรูปภาพได้โดยไม่ต้องลงมือออกแบบเอง ซึ่งรูปภาพที่ได้สามารถนำไปใช้ส่วนตัวแบบไม่ติดลิขสิทธิ์ สำหรับการสร้างรูปภาพแต่ละครั้งจะมีการใช้เหรียญบูสต์เพื่อประมวลผลให้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น แต่หากเหรียญหมดก็สามารถสร้างภาพได้เหมือนเดิมแต่จะใช้ระยะเวลาที่นานขึ้น อย่างไรก็ดี Bing Image Creator สามารถรองรับได้มากกว่า 100 ภาษา รวมถึงภาษาไทย หากใช้คำสั่งภาษาอังกฤษก็จะช่วยให้ได้รูปภาพตรงตามความต้องการมากยิ่งขึ้น
เว็บไซต์ : https://www.bing.com/images/create
4. QuillBot
เครื่องมือที่ช่วยตรวจทาน Grammar และเรียบเรียงประโยคภาษาอังกฤษให้ถูกต้องตามหลักไวยากรณ์ โดยใช้ AI เข้ามาช่วยในการปรับปรุงข้อความ และสร้างประโยคให้มีความแม่นยำมากขึ้น สามารถใช้งานได้ 2 แบบ ทั้งการแปลงข้อความเดิมให้เป็นข้อความใหม่ และการเขียนบทความใหม่ขึ้นมา ซึ่งฟีเจอร์ AI เหล่านี้สามารถเริ่มต้นใช้งานได้ฟรี แต่ยังมีการจำกัดจำนวนตัวอักษร
เว็บไซต์ : https://quillbot.com/
5. Synthesia.io
เครื่องมือ AI ที่ช่วยสร้างวิดีโอด้วยการแปลงข้อความเป็นเสียงพูด ซึ่ง Generate ออกมาเป็นวิดีโอพร้อม AI Avatars ที่สามารถพูดตามข้อความตามที่เราป้อนเข้าไป พร้อมขยับปาก สีหน้า ท่าทางให้ดูเป็นธรรมชาติ มีภาษาให้เลือกมากกว่า 120 ภาษา รวมถึงภาษาไทย ทำให้ช่วยประหยัดเวลา งบประมาณ ไม่ต้องใช้อุปกรณ์และทักษะการตัดต่อวิดีโอก็สามารถสร้างสรรค์ผลงานคุณภาพดีออกมาได้
เว็บไซต์ : https://www.synthesia.io/
บทความที่เกี่ยวข้อง : Generative AI คืออะไร มีประโยชน์ในการทำธุรกิจอย่างไร ?
6. Flair.ai
เครื่องมือที่ช่วยสร้างกราฟิกหรือภาพถ่ายโฆษณาที่ทำให้ธุรกิจต่าง ๆ สามารถสร้างสรรค์ภาพถ่ายสินค้าคุณภาพสูงได้อย่างรวดเร็วและสวยงาม โดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์หรือทักษะในการถ่ายรูปใด ๆ ทั้งสิ้น เพียงใส่ Keyword ของสินค้า พื้นหลัง การจัดวาง และโทนสีที่ต้องการ ก็สามารถสร้างภาพถ่ายเหมือนในสตูดิโอได้ นอกจากนี้ Flair.ai ยังใช้งานได้ง่าย ๆ ไม่ว่าจะเป็นภาพเดี่ยวหรือภาพกลุ่ม ก็สามารถสร้างภาพถ่ายสินค้าคุณภาพได้อย่างรวดเร็วและสามารถนำไปปรับเพิ่มได้ตามใจชอบ
เว็บไซต์ : https://withflair.ai/
7. Murf AI
AI Voice Generator ที่สามารถสร้างเสียงพากย์คล้ายกับเสียงมนุษย์ แปลงเสียงเป็นภาษาต่าง ๆ ได้ 20 ภาษา ซึ่งถือว่าตอบโจทย์สำหรับ Content Creator และผู้ที่ต้องการสร้างสรรค์ผลงานแบบมืออาชีพ Murf AI สามารถเปลี่ยนข้อความให้เป็นเสียงพากย์ และโคลนเสียงจากไฟล์เสียงตัวอย่างเพื่อให้ AI เรียนรู้และเลียนแบบเสียงตัวอย่างได้ อีกทั้งยังสามารถปรับแต่งเสียงพากย์ได้ตามใจ ทำให้ Creator สามารถทำงานสะดวก ประหยัดเวลา งบประมาณ และทำงานได้ง่ายขึ้น
เว็บไซต์ : https://murf.ai/
8. NativeChat
แชตบอตอัตโนมัติที่รองรับการสื่อสารได้หลายภาษา สามารถตอบโต้ได้ตลอด 24 ชั่วโมง และใช้งานได้หลายธุรกิจ ทั้งบริการให้ปรึกษาทางการตลาด การเงิน ตลอดจนถึงด้านทางการแพทย์ NativeChat สามารถตอบโต้กับลูกค้าได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการตอบคำถามที่พบบ่อย การจองนัดหมาย หรือการให้คำแนะนำการใช้งาน ทำให้องค์กรสามารถปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงาน ลดต้นทุน และเพิ่มความพึงพอใจให้แก่ลูกค้าได้
เว็บไซต์ : https://www.progress.com/nativechat
9. Sembly
เครื่องมือที่ช่วยถอดข้อความ บันทึกเนื้อหา และสร้างข้อมูลเชิงลึก ด้วยการใช้เทคโนโลยี AI เพื่อแปลงเสียงเป็นข้อความ ทำให้เราสามารถจัดการประชุมออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยฟีเจอร์หลักของเครื่องมือดังกล่าว คือการจดจำเสียง แปลงข้อความ สรุปการประชุม และการตั้งค่าแจ้งเตือน นอกจากนี้ ยังใช้งานง่าย ช่วยทำให้องค์กรจัดการกับการประชุมได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงกล่าวได้ว่า Sembly เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่ช่วยยกระดับคุณภาพของการประชุมได้เป็นอย่างดี
เว็บไซต์ : https://www.sembly.ai/
10. Stability AI
โปรแกรม AI ที่ช่วยสร้างสื่อและโมเดลที่ล้ำสมัย สามารถสร้างได้ทั้งรูปภาพ ภาพเคลื่อนไหว เสียง และภาพสามมิติ Stability AI ถูกออกแบบมาอย่างเรียบง่าย ไม่ซับซ้อน ผู้ใช้งานสามารถเริ่มต้นใช้เครื่องมือได้ง่าย ๆ อีกทั้งเครื่องมือของ Stability ยังเป็นแบบ Open source จึงสามารถใช้งานได้ฟรีโดยไม่จำเป็นต้องล็อกอินหรือสมัครสมาชิก รวมถึงยังมี Prompt Database ซึ่งเป็นฐานข้อมูลที่ช่วยให้เราศึกษาการใช้งาน Prompt อีกด้วย
เว็บไซต์ : https://stability.ai/
สรุป
ทุกวันนี้เครื่องมือ AI ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการทำงานในหลาย ๆ อุตสาหกรรม การใช้เครื่องมือเหล่านี้จะช่วยแบ่งเบาภาระการทำงานของพนักงาน ช่วยลดต้นทุน และเพิ่มความสามารถของงานได้เป็นอย่างดี เสมือนมีผู้เชี่ยวชาญคอยช่วยเหลืออยู่ตลอดเวลา หากองค์กรสามารถนำเทคโนโลยี AI มาปรับใช้กับธุรกิจอย่างถูกต้อง ก็จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและนำไปต่อยอดเชิงธุรกิจได้หลากหลาย
Ref: นักพัฒนาไทย Thai Developer
💬🙋♂️ สอบถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อมาได้ที่
☎ Tel: 02-718-1599
✉ Email: info@ert.co.th
📱 Line: https://lin.ee/wtyQVtl